
https://www.matichon.co.th/politics/news_2462997
เปิดใจ “เฮียบุ๊ง-ปกรณ์” จะถอยมาเป็น “ผู้ชม” ม็อบร่วมกับ “ทราย”
เปิดใจ “เฮียบุ๊ง-ปกรณ์” จะถอยมาเป็น “ผู้ชม” ม็อบร่วมกับ “ทราย”
หลังเผชิญดราม่าหลายต่อหลายเรื่อง ล่าสุดมีกระแสข่าวว่า “เฮียบุ๊ง-ปกรณ์ พรชีวางกูร” นักเคลื่อนไหวทางการเมือง กับ ทราย-อินทิรา เจริญปุระ นักร้องนักแสดง แกนนำทีมเสกของ จะถอยออกมาเป็นเพียงผู้ชม
“มติชนออนไลน์” จึงสัมภาษณ์พิเศษ เฮียบุ๊ง-ปกรณ์ ต่อกระแสข่าวดังกล่าว
จริงไหม เฮียบุ๊ง-ทราย จะถอยออกมา?
เฮียบุ๊ง : เป็นความจริงที่ว่าผมกับทราย จะถอยกลับมายังจุดเริ่มต้นที่เราเป็นเพียง “ผู้ชม” ม็อบ ทั้งนี้เดิมทีผมกับทราย เรามีกันแค่ 2 คน ไม่ได้รู้จักกันด้วย มารู้จักกันจากในม็อบ จากการที่ผมแจกน้ำ 100 แพ็ค ทรายแจกไอติม 10 ถัง
แต่หลังจากม็อบผ่านไป 4-5 เดือน ยังไม่จบ ขบวนการใหญ่ขึ้น คนเยอะมากขึ้น จนเราต้องหาทีมงานมาช่วย จนถึงตอนนี้มีทีมงานมากกว่า 10 คนแล้ว
ผมกับทรายจึงได้มาคุยกันสักระยะหนึ่งแล้วว่าเราควรจัดระบบ แล้วถอยออกมาได้แล้ว เพราะมันวุ่นวาย คนเยอะมาก ต้องประสานงานเยอะมาก ต้องจัดการกับปัญหาทุกเรื่อง ยกตัวอย่างเรื่องการ์ดอาชีวะ ก็มีหลายกลุ่มหลายก๊ก ฯลฯ มีความต้องการต่างๆ กัน เมื่อต้องจัดการกับปัญหาทุกเรื่องทั้งที่บางเรื่องก็ไม่เกี่ยวกับเรา
จึงมีการคุยกับทรายมาสักระยะหนึ่งแล้วว่าเราจะจัดระบบให้มันเข้าที่ แล้วจากนั้นปล่อยให้มันรันของมันไปปล่อยให้น้องๆ ดูแลกันเอง ส่วนผม กับทราย จะถอยกลับมายังจุดเริ่มต้นที่เป็นเพียงผู้ชม จะได้มีเวลามากขึ้น ไม่วุ่นวาย ผมจะได้มีเวลาไปนั่งฟังน้องๆ ที่ขึ้นพูดบนเวที เพราะตลอดเวลาม็อบ 4-5 เดือนที่ผ่านมา ผมไม่มีเวลาไปนั่งฟังน้องๆ พูดเลย
ที่ผ่านมาเราจึงมีการจัดระบบม็อบ โดยหาแกนนำมาดูแลในแต่ละด้าน ซึ่งเราจัดระบบเรียบร้อยมาสักพักแล้ว อาทิ เดิมการ์ดมีหลายกลุ่มมาก เช่น WEVO การ์ดอาชีวะซึ่งจะมีอีโก้ มีพลังมาก ฯลฯ ตอนนี้ก็มีจัดกรุ๊ปให้เหลือแค่ 3 ก๊ก และให้พวกเขาประสานงานกันเอง ผมตั้งใจว่าจะปล่อยให้ระบบรันไป แล้วถอยออกมาเป็นเพียงผู้ชมม็อบ แต่บังเอญว่าในวันเดียวกัน เกิดประจวบเหมาะมี 3 เหตุการณ์ เกิดขึ้นพร้อมกัน คือ 1. ผมกับทราย ตกลงกันที่จะถอยออกมายังจุดเริ่มต้นที่จะเป็นเพียงผู้ชมม็อบ 2.เกิดกระบวนการปั่น IO จากกองทัพในเรื่องเงินบริจาค และ3.การ์ดอาชีวะถูกยิง
คนเลยเข้าใจผิดว่าเพราะดราม่าเรื่องเงินบริจาค ผมกับทรายเลยจะถอยออกมา แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่เลย เพราะอย่างที่บอกว่าผมกับทราย เราคุยกันมาพักหนึ่งแล้วว่าจะถอยมายังจุดเริ่มต้นที่เราเคยอยู่ เพียงแต่พอกระแสดราม่า กลับกลายมาเป็นดี มีเงินเข้ามาส่งเสริมม็อบมากขึ้น
จะถอยกลับมาเป็นเพียงผู้ชม ไม่สนับสนุนม็อบเหมือนเดิมหรือ??
เฮียบุ๊ง : คือผมกับทรายจะถอยกลับมายังจุดเริ่มต้นที่เคยทำ นั่นคือ จะดูแลแค่ 3 เรื่อง นั่นคือ 1.สาธารณูปโภคในม็อบ ได้แก่ รถปั่นไฟ รถน้ำและรถห้องน้ำ 2.จัดเตรียมเสบียงอาหารให้แก่สตาร์ฟ ซึ่งรวมการ์ดม็อบ เดิมจุดเริ่มต้นของเราทำแค่นั้น แต่ต่อมากลายมาเป็นจัดเสบียงอาหารให้กับกลุ่มชุมนุม ซึ่งต้องเตรียมอาหารเป็นหมื่นชุด แต่เมื่อเราลดบทบาทเหลือแค่จัดเตรียมอาหารให้แก่สตาร์ฟ ก็จะเหลือแค่ต้องเตรียม 3,000-4,000 ชุดเท่านั้น จะได้มีเงินเหลือไปใช้ในข้อที่ 3 คือ การดูแลคนเจ็บจากการชุมนุมซึ่งรวมถึงเรื่องของรถพยาบาลด้วย
ผมกับทราย ตั้งใจจะถอยออกมาดูแลแค่ 3 เรื่องนั้น ส่วนที่เหลือปล่อยให้ระบบรันไป เพราะตอนนี้เราได้จัดระบบต่างๆ ไว้เรียบร้อยหมดแล้ว จากนั้นพวกเราก็มีเวลามากขึ้น มีเวลาไปนั่งฟังน้องๆ พูดบนเวที ไม่ต้องมาวุ่นวาย จัดการกับทุกๆ ปัญหาด้วย จากนี้น้องๆ ก็ต้องดูแลกันเอง แต่เราก็วางระบบต่างๆ ให้เรียบร้อยแล้ว
ดราม่า #แจงรายจ่ายม็อบ ที่ว่า “จากร้าย กลายเป็นดี” เป็นอย่างไร?
เฮียบุ๊ง : คือต้องบอกก่อนว่าปกติเราต้องหาเงินมาเติมในช่วงกลางเดือนกับปลายเดือนเพื่อให้พอกับม็อบในแต่ละครั้ง แต่ช่วงปลายเดือน เงินเดือนยังไม่ออก เราจึงต้องหาเงินมาเติม แต่ปรากฏว่าหลังมีดราม่าเรื่องให้ชี้แจงรายจ่ายม็อบ คือ มีการปั่น IO ราวตี 1 ผมตื่นมา 6 โมงเช้า ปรากฏว่ามีเงินเข้า 50,000 บาท ทั้งที่ผมก็ยังไม่ได้โพสต์บัญชีอะไร คุยกับทราย ทรายก็ยังไม่โพสต์บัญชีอะไร แต่เงินเข้ามาที่บัญชีผมกับทราย ของผมเข้ามา 5 หมื่น ทรายเข้ามาแสนกว่า ตลอดวันของผมมีเงินเข้ามาแสนกว่าบาท ของทราย 2-3 แสนบาท ภายในวันเดียว เหมือนว่ายิ่งโกรธ ยิ่งโอน
แล้วเมื่อวานที่ไปม็อบ เห็นน้องๆ แกนนำที่ยังไม่ดัง ไม่มีเงินค่ารถ ผมก็เลยประกาศบัญชีของน้องๆ แกนนำเหลานั้น เพื่อน้องๆ จะได้มีเงินเป็นค่าเดินทาง เพราะเขาต้องเดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาทุกวัน ก็ปรากฏว่ามีเงินเข้าบัญชีน้องๆ พอสมควร
อยากฝากอะไรถึงน้องๆ ผู้ชุมนุม และรัฐบาลบ้าง?
เฮียบุ๊ง : คงไม่ฝากถึงรัฐบาล เพราะเขาไม่ฟัง ฝากถึงน้องๆ ผู้ชุมนุมแล้วกัน สิ่งสำคัญ คือเซฟตี้ เมื่อออกจากบ้านและกลับบ้าน จะต้องปลอดภัย ฉะนั้นอุปกรณ์ที่เราแจกน้องๆ ขอร้องว่าขอให้นำกลับมาร่วมในการชุมนุมแต่ละครั้งด้วย เพราะเราไม่รู้เลยว่าจะเกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อไหร่ เพราะงั้นผมอยากให้นำอุปกรณ์เหลานั้นมาเซฟตัวเองด้วย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ขอบคุณ : ภาพ เฮียบุ๊ง-ปกรณ์, iG ทราย
7 ความเห็น
https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_5423262
แยกบางนาคึกคัก กลุ่มราษฎร ทำพิธีเผารูป-สาปแช่ง ก่อนประกาศยุติชุมนุม
จากกรณีกลุ่มราษฎร ได้นัดหมายกันเดินทางมาร่วมชุมนุมที่บริเวณแยกบางนา จากนั้นก็ได้ใช้รถเครื่องเสียง ตั้งเวทีก่อนที่แกนนำจะหลัดเปลี่ยนกันขึ้นปราศรัย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น อ่านข่าว ปิดแยกบางนาแล้ว! กลุ่มผู้ชุมนุม ลงพื้นที่เต็มถนน เป็ดเหลืองวางขายเพียบ
จากนั้นในเวลา 19.30 น.วันที่ 28 พ.ย.63 รถขยายเสียงได้เคลื่อนตัวไปอยู่บริเวณกลางสี่แยกบางนา ทำให้รถที่จะตรงไปถนนสรรพวุธไม่สามารถผ่านได้ โดยบนเวทีมี นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข ตัวแทนแนวร่วมสมุทรปราการและการชุมนุม ตัวแทนแรงงาน นักเรียน นักศึกษา ขึ้นมาพูดถึงการสืบทอดอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ความล้มเหลวของรัฐบาลที่มี พล.อ.ประยุทธ เป็นผู้นำ
ที่ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ทั้งเรื่องคนตกงานค่าแรงงานต่ำและสินค้ามีราคาสูงขึ้น พร้อมทั้งยืนยันข้อเรียกร้องทั้ง 3 ข้อ 1.หยุดคุกคามประชาชน 2.นายกฯ ต้องลาออก ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ และ 3.ปฏิรูปสถาบันฯ ตามข้อเรียกร้องของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และการชุมนุม ทั้ง 10 ข้อ โดยสลับกันขึ้นพูดบนเวที
จนเมื่อเวลา 22.00 น. ได้ทำพิธีเผารูปภาพของ พล.อ.ประยุทธ และคำสาปแช่ง โดยได้เปิดเพลงพญาโศก คลอตามไปจนไฟไหม้รูปภาพจนหมด ก่อนจะยุติการชุมนุมในเวลา 22.10 น. กลุ่มผู้ชุมนุมได้ทยอยแยกย้ายกันเดินทางกลับ
‘สมยศ พฤกษาเกษมสุข’จัดบิ๊กเซอร์ไพรส์ อ่านบทกวีสวดส่งซาตาน เผารูปสาปแช่ง’บิ๊กตู่’
https://www.matichon.co.th/politics/news_2463308
เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน บรรยากาศที่แยกบางนา เวลา 21.35 น. นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข ขึ้นปราศรัยว่า วันนี้เราเดินทางมากว่า 6 เดือน รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ทำให้ประเทศล่มจม หลังจากยึดอำนาจรัฐประหาร ก็สร้างรัฐธรรมนูญปี 2560 กลายเป็นปัญหาของประเทศไทยในขณะนี้ เพราะ รัฐธรรมนูญ ได้วางการสืบทอดอำนาจ เราจึงเห็น ส.ส. รัฐบาล ออกมาพ่นน้ำลายให้ประชาชน ได้รับความเดือดร้อน มี สว. 250 คน ที่เป็นส่วนเกินรัฐสภา ซึ่ง สว.ไม่มีความจำเป็นใดๆ ยังเป็นตัวทำลายประชาธิปไตย เหนี่ยวรั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญ อีกทั้ง สว. จำนวนมาก ยังกินเงินเดือน 2 ตำแหน่ง ทำให้เรามีภาระงบประมาณมากมายในการเลี้ยงดูคนเหลานี้ รวมทั้งสภาแห่งนี้ยังปัดตกร่างรัฐธรรมนูญของไอลอว์ แสดงให้เห็นว่ารัฐสภาแห่งนี้จึงเป็นรัฐสภาขี้ข้าเผด็จการ
นายสมยศ กล่าวว่า เราไม่ต้องการความรุนแรงทางการเมือง เราอยากให้ทหาร ตำรวจรับทราบว่าประชาชนอดทนอดกลั้นมาหลายปี ช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา พนักงาน รปภ. อายุ 19 ปี เดินทางจากจ.ฉะเชิงเทรา มาทำงานในกรุงเทพฯ ได้เงินค่าจ้างวันละ 300-400 บาท ที่ไม่พอดำรงชีพ ได้สินใจแขวนคอตัวเอง และยังเขียนจดหมายพร้อมแนบถ่ายรูปถ่าย พล.อ.ประยุทธ์ ว่า “คนจนทำให้เกิดคนรวย คนรวยเพราะคนจน”
นอกจากนี้นายสมยศ ยังได้กล่าวถึงการที่รัฐบาลใช้ข้อหามาตรา 112 กับประชาชน เหมือนการขุดหลุมฝังศพตัวเอง เพราะเป็นกฎหมายที่ล้าหลัง และคนทั่วโลกจับตาดูอยู่ รวมทั้งยังกล่าวถึงการปฏิรูปสถาบัน
ในช่วงท้ายการปราศรัย นายสมยศ ได้จัดบิ๊กเซอร์ไพรส์ทำพิธีสาปแช่ง พล.อ.ประยุทธ์ ด้วยการอ่านบทกวีสวดส่งซาตาน และจุดไฟเผารูปที่ผู้ชุมนุมได้ร่วมกันเขียนข้อความสาปแช่งไว้ และอ่านแถลงการณ์ข้อเรียกร้องของกลุ่มแนวร่วมสมุทรปราการและการชุมนุมและเครือข่าย
มีเนื้อหาว่า นับตั้งแต่ประยุทธ์ จันทร์โอชาทำรัฐประหารปี พ.ศ.2557 และยัดเยียดรัฐธรรมนูญ 2560 ให้สังคมไทยเป็นต้นมา ทำให้ประเทศไทยเกิดวิกฤตการณ์ในด้านต่างๆมากมายโดยเฉพาะอย่างยิ่งอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจตกต่ำราคาพืชผลการเกษตรลดลง โรงงานย้ายฐานการผลิตผู้ประกอบการรายย่อยล้มละลาย จนเกิดการว่างงานเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ก่อให้เกิดความยากจนและความทุกข์ยากเดือดร้อนแสนสาหัส มีคนงานได้รับค่าจ้างขั้นต่ำวันละ 330 บาทซึ่งไม่พอต่อการดำเนินชีพที่จำเป็น ประโชชน์ทดแทนการว่างงานในประกันสังคมเป็นเพียงเศษเงินไม่พอยาไส้ มีการจ้างงานชั่วคราวขยายตัวมากมาย ฯลๆ ในสถานศึกษานักเรียน นักศึกษา จำนวนไม่น้อยกว่า 30% ต้องออกจากการศึกษาเพราะครอบครัวยากจน และยังคงไว้ซึ่งหลักสูตรที่เน่าเฟะ และเสื่อมโทรมใช้อำนาจนิยมมากดขี่เยาวชนโดยการออกระเบียบ เช่น ทรงผม เครื่องแต่งกาย
รวมทั้งการเข้าแถวที่ไร้สาระ ซึ่งเพิ่มภาระการใช้จ่ายในครอบครัวอีกทั้งเป็นการควบคุมนักเรียนเหมือนนักโทษ
ในด้านรัฐธรรมนูญ 2560 เป็นการสืบทอตอำนาจเผด็จการของทหาร ด้วยการตั้ง ส.ว. 250 คน
ให้รับใช้เผด็จการศักดินา ซึ่งสิ้นเปลืองบประมาณแผ่นดินและได้สมาชิกผู้แทนราษฎร ประเภทปัญญาอ่อน งูเห่า บัตรเขย่ง ทำให้รัฐสภาเป็นเพียงขี้ข้ารับใช้เผด็จการ
อีกทั้งรัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังใช้เสียงข้างมากในสภาออกร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ 2560 จัดตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร) เพื่อสืบทอดเผด็จการ
พวกเราแนวร่วมสมุทรปราการและการชุมนุม เครือข่ายแรงงานสิทธิเพื่อประชาชน DEM HOPE ขอเรียกร้อง ดังนี้
1.นายกรัฐมนตรีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องออกไป ประเทศไทยจะได้ก้าวหน้า
2.เดินหน้าประชาธิปไตย แก้ไขรัฐธรรมนูญ ตามข้อเรียกร้องของประชาชน
3.ปฏิรูปสถาบันขอให้ยกเลิกมาตรา 112 และยกเลิกการคุกคามประชาชนทุกรูปแบบ ยุติการดำเนินคดีที่มีต่อแกนนำผู้เรียกร้องประชาธิปไตยทั้งหมด หากรัฐบาลเพิกเฉยนักเรียน นักศึกษา ผู้ใช้แรงงานและประชาชนทุกชนชั้น จะผนึกกำลังยกระดับการชุมนุม การเดินขบวนให้เข้มข้นต่อไป จนกว่าจะบรรลุข้อเรียกร้องข้อทั้งหมด
ก่อนประกาศยุติการชุมนุมในเวลา 22.00 น.
ให้กำลังใจจครับคุณทราย เฮียบุ๊ง
เห็นใจทุกคนที่เสียสละทำงานนี้ ไม่ว่าคุณจะอยู่ในจุดไหน รับรู้เถิดว่าคนในสังคมเขาชื่นชม และ ขอบใจพวกคุณทุกคนเหมือนกันหมด
เรื่องที่บั่นทอนจิตใจ ขออย่าได้สนใจพวก "มือไม่พาย เอาเท้าราน้ำ" พวกนี้ไร้สาระ
ขอให้ยึดเอาคนที่เขาเป็นแรงหนุนดีกว่า อย่าไปเสียเวลากับพวกไร้ค่า
ประธานผ้าป่า ที่ไม่วัดครึ่ง กรรมการครึ่ง ก็แบบนี้นี้แหละ เข้าตัวตลอด โดนด่าอีกต่างหาก พวกวัดครึ่ง กรรมการครึ่ง (กกต ตลก สว พปชร พรรคร่วมฯ) รวยเอาๆ ออกชื่อไม่ประสงค์ออกตังส์
ผ้าป่าก็ถวายไปแล้ว เวลามีกิจกรรมแข่งขันต่างๆ มีรางวัล ให้มาเบิกกับเราอีก นั่ง งง เหมือนคุณทราย ทุกวันนี้แหละ ไม่ให้ก็ไม่ได้อีก ควักอีกแล้ว 55555